📊🧮📉นักเศรษฐศาสตร์ Wall Street คาดการณ์ว่า CPI เดือนส.ค.ที่จะออกมาในวันนี้จะลดลง 0.1% ต่อเดือนจากราคาน้ำมันที่ลดลง นั่นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อ CPI ลดลงเหลือ 8% จาก 8.5% แต่แนวโน้มสำหรับนโยบายเฟด และดาวโจนส์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหาร และพลังงานที่ผันผวน Core CPI คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปีปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.1% จาก 5.9%

🤓📉📊ข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐานที่เบาเกินคาดอาจลดโอกาสที่เฟดจะกลับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps.ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 21 ก.ย. และอาจตอกย้ำความคาดหวังว่าอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดจะชะลอตัวหลังจากเดือนก.ย.

🪙🤓💬ทั้งนี้พาวเวลล์ ได้แถลงเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวพยากรณ์ที่ดีกว่าของเงินเฟ้อ ในช่วงหลายเดือนก่อน เมื่อราคาน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น เฟดให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป แต่ตอนนี้ ราคาก๊าซลดลง การปรับของ เฟดก็เปลี่ยนไป ราคาหลักกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง ซึ่งเป็นการกลับมาสู่ภาวะปกติ

🪙🤓💬โดยทั่วไปพาเวลล์ อธิบายว่าผู้กำหนดนโยบายสามารถมองผ่านการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะสั้น เช่น น้ำมัน แต่อัตราเงินเฟ้อสูงเกินไปเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ครัวเรือนจะเริ่มคาดหวังอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในอนาคต ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การเจรจาต่อรองเชิงรุกเพื่อขึ้นค่าแรงและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่ราคาจะขึ้นอีกค่ะ

🖇️ขอบคุณภาพ : Yahoo Finance, Investor’s Business Daily
🖇️Link : https://finance.yahoo.com/m/9c6775e0-f1c9-3c11-98d8-92c772211a9a/cpi-inflation-rate-is.html

Follow Me↙️↙️↙️↙️
📌FB:https://www.facebook.com/shininggold.th/
📌Web:https://shininggold.com/homepage
📌Telegram:https://t.me/shininggoldth
📌Line@:@shininggoldth