🔥📈🌃อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 40 ปีในเดือนธ.ค. เพิ่มทำให้ความคาดหวังที่จะขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.มากขึ้นทันที ซึ่งกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่ 7% สูงที่สุดนับตั้งแต่มิ.ย.1982 ในสมัยโรนัลด์เรแกนเป็นปธน.
🐓🐮ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐได้ผลักดันให้ปธน.ไบเดนเริ่มการปราบปราม meatpackers รายใหญ่ของสหรัฐ ที่ไบเดนกล่าวหาว่าผลักดันต้นทุนเนื้อวัวและเนื้อสัตว์ปีกให้สูงขึ้น
🚧📈🔥ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในธ.ค.ได้รับแรงหนุนจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น 29 %จากปีที่แล้ว และราคาอาหารพุ่งขึ้น 6.3 % ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด
📈🔥🌃ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ แต่พาวเวลล์ได้กล่าวกับวุฒิสมาชิกในสัปดาห์นี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในขณะนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเป้าหมายการจ้างงาน แม้แต่การตัดค่าใช้จ่ายด้านอาหารและพลังงานที่ผันผวนออกไป อัตราเงินเฟ้อยังแตะ 5.5 %ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991
🤓📈🚧Paul Ashworth หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Capital Economics สหรัฐ กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวเลวร้ายอย่างที่ได้คาดไว้ และคาดว่าเฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในมี.ค. โดยจะมีการปรับขึ้น 25% ทั้งหมด 4 ครั้งในปีนี้และอีก 4 ครั้งในปี 2023
📉📊⏳การว่างงานก็ลดลงต่ำกว่า 4pc และแรงกดดันด้านค่าจ้างกำลังเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ กระตุ้นให้เริ่มมีการถกเถียงกันในหมู่ผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยถึงระยะเวลาที่จะเริ่มลดงบดุลเฟดค่ะ
Follow Me↙️↙️↙️↙️
📌FB:https://www.facebook.com/shininggold.th/
📌Web:https://shininggold.com/homepage
📌Telegram:https://t.me/shininggoldth
📌Line@:@shininggoldth