สำหรับปัจจัยที่น่าจับตาในเดือนนี้ มี อยู่ 5 เรื่องหลักคือ
1.ติดตามความเปาะบางของโอกาสการปะทะกันมากขึ้นจากการที่รัสเซียเดินหน้าผนวก 4 แคว้นของยูเครน เช่น โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซห์เซีย และเคอร์ซอน
2.การประชุม OPEC+ ที่อาจนำมาสู่การลดกำลังการผลิต
3.ตัวเลข CPI ประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะสหรัฐ
4.ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเปลี่ยนแปลงตำแหน่งระดับผู้นำว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือไม่
5.การเปิดเผยผลประชุมธนาคารกลางสำคัญ เช่น FOMC Minute และ ECB Meeting
สำหรับเดือนนี้ถือว่าอาจจะปลอดโปร่งกว่าเดือนที่ผ่านมา คือ การประชุมของธนาคารหลักใหญ่ ๆ โดยเฉพาะเฟด นั้นไม่มี แต่อาจจะมีเพียงการรายงานการประชุมของธนาคารกลางในรอบเดือนที่ผ่านมามากกว่า ซึ่งก็เชื่อว่า ตลาดได้รับข่าวลบของการพยายามเร่งเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันอย่างแข็งขันมาพอสมควรแล้ว ดังนั้นถือว่า Fundamental ที่จะมาจากการประชุมของธนาคารกลางและให้ผลในเชิงลบนั้นยังคงไม่มีมากนักในเดือนนี้ แต่ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามกันต่อส่วนใหญ่ยังสะท้อนภาพเชิงบวกอยู่ อาทิเช่น ประเด็นรัสเซียเดินหน้าผนวก 4 แคว้นของยูเครน เช่น โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซห์เซีย และเคอร์ซอน มาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ตามการลงประชามติล่าสุดที่โดเนตสก์ ประกาศว่าประชาชนสนับสนุนการผนวกกับรัสเซีย 99.23% ลูฮันสก์ 98.42% ซาโปริซห์เซีย 93.11% และ เคอร์ซอน 87.05% ท่ามกลางการไม่เห็นด้วยของนานาประเทศโดยเฉพาะชาติตะวันตก หรืออาจเป็นเพราะดินแดนทั้ง 4 ถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ น้ำมัน ก๊าซ ธัญพืช และ แร่ธาตุ รวมพื้นที่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของยูเครนเลยทีเดียว แต่ก็มีจีนที่มองว่า การรวมชาติ และอธิปไตยของแต่ละประเทศเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเคารพ และดูเหมือนว่าสภาดูมาจะลงมติเห็นชอบผนวก 4 ดินแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นความเปาะบางส่วนนี้อาจจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นได้ การประกาศระดมพลทหาร 3 แสนนาย เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตั้งรับหากสถานการณ์ต่าง ๆเลวร้ายลง หากไม่เกิดการปะทะที่เป็นผลมาจากการผนวกดินแดน ก็จะถือว่าไม่มีปัจจัยบวกจากประเด็นนี้ แต่อาจจะกลายเป็นปัจจัยลบให้ดูเหมือนว่าตะวันตกที่เริ่มอ่อนแอลง ให้ดูอ่อนแอมากยิ่งขึ้น เพราะ หน้าหนาวที่กำลังเริ่มเข้ามาทุกขณะกำลังบั่นทอนเศรษฐกิจของยุโรปที่เดิมพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียผ่าน ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ก็มีปัญหาพบรอย รั่ว 2 จุด ทำให้ไม่สามารถกลับมาส่งก๊าซได้ แต่หากจะหันไปพึ่ง Nord Stream 2 ก็เกิดรอยรั่ว เช่นกัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันเยอรมนีจะสามารถสำรองพลังงานได้เกือบ 90% แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นก็มีรายงานมาว่า หากไม่มีการส่งพลังงานจาก Nord Steam เลยในช่วงฤดูหนาวปริมาณสำรองดังกล่าวจะอยู่ได้เพียง 2 เดือน ครึ่งเท่านั้น นั่นหมายความว่า ผลกระทบที่จะส่งผ่านในรูปของอัตราเงินเฟ้อจะยิ่งเร่งตัวขึ้นมากเท่านั้น ก็จะไปกระทบกับค่าเงินยูโรให้อ่อนค่า หากประเด็นดังกล่าวไม่ได้รับการคลี่คลาย ล่าสุดมีการคาดการณ์กันว่า การประชุม OPEC+ในเดือนนี้ประชุมน่าจะมีมติลดกำลังการผลิตลงอย่างน้อยเดือนละ 5 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างมากก็ 1 ล้านบาร์เรล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกกดันมาที่ราคาพลังงานอีกทอด แต่หากไม่เห็นชอบ ราคาน้ำมันก็อาจจะทรุดลงมาอีกระดับตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ทำให้ Demand ลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการดำเนินนโยบาย Zero Covid ของจีนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้Demand ลดลง เช่นกัน และสุดท้ายคือ การประกาศตัวเลข CPI มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของประเทศสำคัญ ๆ ที่จะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบถัดไปว่าจะสูงขึ้น หรือลดลงโดยแยกเป็น 2 ประการ คือ หากเป็นของสหรัฐก็ยังเชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนเช่นเดิมที่คาดว่าปลายปีนี้จะไปแตะระดับ 4.5% ได้ นัยคือ หากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงอย่างมาก ก็เชื่อว่าตลาดยังคงให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบเดือน พ.ย. 75 bps. เช่นเดิม ขณะที่ทางฝั่งยุโรปคงจะลุ้นยากหน่อยที่จะให้อัตราเงินเฟ้อลดลงท่ามกลางปัจจัย Supply พลังงานที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นนี้ได้ ดังนั้นแนวโน้มในอนาคตก็ยังเชื่อว่ามาตรการทางการเงินของธนาคารต่าง ๆ ยังคง Aggressive ต่อไปอีกสักระยะ สำหรับประเด็นการแตกแถวทางเครื่องมือของ BOE ที่อัดฉีดเงินเพิ่มเข้ามาจนถึง 65พันล้านปอนด์ ถือเป็นปัจจัยบวกเพียงช่วงสั้น เช่นเดียวกับการพยายามแทรกแซงค่าเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยการเทขายดอลลาร์เพื่อพยุงค่าเงิน และเริ่มมีกระแสว่าจีนจะทำเช่นนั้นเช่นกัน ซึ่งหากทำได้ในช่วงปริมาณเงิมหาศาลและระยะเวลานานต่อเนื่อง อาจได้เห็นผลเชิง ทั้งนี้จุดเปลี่ยนทางเทคนิคที่สำคัญ คือ 1735 เมื่อใดที่มีการ Breakout ขึ้นมาได้อาจถือว่าเป็นสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์กลับมาเป็นขาขึ้นเช่นเดิม แต่หากไม่สามารถทะลุ หรือยืนแนวดังกล่าวได้ แนวโน้มขาลงก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นกัน
ปัจจัยทางเทคนิค : พยายาม Retest จุดเปลี่ยนเทรนด์ขาขึ้น
ทั้งนี้จุดเปลี่ยนทางเทคนิคที่สำคัญ คือ 1735 เมื่อใดที่มีการ Breakout ขึ้นมาได้อาจถือว่าเป็นสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์กลับมาเป็นขาขึ้นเช่นเดิม แต่หากไม่สามารถทะลุ หรือยืนแนวดังกล่าวได้ แนวโน้มขาลงก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นกัน
กรณีที่ทองคำสามารถทะลุและยืนเหนือ 1735 ได้ จะรอย่ออีกครั้งเพื่อ Open Long โดยจุดเข้าจะอยู่ระดับ 1700-1692 / 1665 [SL=1650] แต่หากไม่สามารถทะลุแนวดังกล่าวขึ้นไป ยังคงเลือกเปิด Open Short 1728-34 [SL=1750]
แนวโน้มค่าเงินบาท
ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปลายเดือนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาททั้งทางอ้อมและทางตรง ทางอ้อมคือ การประกาศนโยบายการเงินของ BOE ที่กล่าวว่าจะเริ่มอัดฉีดเงินเพิ่มสภาพคล่องโดยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกวันตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.จนถึง 14 ต.ค. เป็นจำนวนเงินโดยรวม 65 พันล้านปอนด์ ก็สร้างความตกใจให้กับตลาดอย่างมาก ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าอย่างรุนแรงจาก 114.73เหลือ 112.51 เป็นตัวจุดฉนวนหรือกระตุกให้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 38.40 กลับลงสัมผัส 37.48 อีกครั้งแข็งค่าขึ้นราว ๆ 2.39% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุด แม้ว่าในวันเดียวกัน กนง.จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ก็ยังไม่สามารถชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท ได้เช่นนโยบายของ BOE อาจจะเป็นเพราะด้วยภาพรวมแนวโน้ม เศรษฐกิจของไทยยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงแตะระดับ 7.86% ประกอบกับแนวโน้มนโยบายการเงินของ FED ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบ Jumbo rate จึงทำให้ภาพของกระแสเงินทุนโลกยังคงไหลหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นดอลลาร์ หากเราพิจารณา 2 ปัจจัยประกอบ คือ ผลกระทบของการดำเนินนโยบายของ BOE แบบสวนเทรนด์โลกเป็นจุดเริ่มต้นให้ค่าเงินบาทสามารถพักฐานช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับมาอ่อนค่าตามแนวโน้มโลกก็เป็นได้ เพราะเดือนนี้ไม่มีการประชุมเฟดที่เป็นตัวเร่งให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงๆ นั่นเอ
โดย แนวต้าน ของค่าเงินบาทรายเดือน 38.10 / 38.65 / 39.28
และ แนวรับ ของค่าเงินบาทรายเดือน 37.25 / 36.90 / 36.50
การคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำไทย
เชื่อว่ากรอบราคาทองคำโดยรวมยังมีรอบรีบาวน์ตามทิศทางแนวโน้มขาลง โยภาพกรอบใหญ่ของเดือนยังให้น้ำหนักที่ 30500 – 28600
กรณีที่ ราคาทองรีบาวน์ใกล้กับระดับแนวต้าน 29900 / 30300-500 ทยอยทำกำไร หรือพอร์ตลง เพื่อจะกลับมาเข้าซื้อกันใหม่เพื่อเล่นรอบในช่วงเดือนบริเวณ 29000 / 28650