Focus on.....
On Week: Debate debt Ceiling
Thurs. 27: GDP QoQ
Thurs. 28: PCE Deflators YoY
หากพิจารณาปัจจัยทางเทคนิค ภาพรวมรายวัน ถือว่ายังเลี้ยงตัวบริเวณขอบแนวรับล่างของกรอบ Uptrend Channel ของกรอบดังกล่าวยังมีลักษณะเช่นเดิมคือ 1968-2063 ภาพรวมการปิดตัวของแท่งกราฟรายสัปดาห์ยังถือว่ารักษาเทรนด์ขาขึ้นในช่วงเดือนได้อยู่แม้การปิดของแท่งกราฟจะเป็นแท่งสีแดงก็ตาม ราย 4H และ ราย 1H แสดงภาวะการเข้าซื้อในช่วงท้ายตลาด ขณะที่ปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ยังสนับสนุนทองคำเชิงบวก อาทิเช่น จะมีการลงคะแนนเสียงของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐในร่างกฎหมายเพิ่มวงเงินเพดานหนี้ 1.5ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดย เควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาเพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังในปัจจุบันอาจหลีกเลี่ยงการผิดนัดได้ถึง 5 มิ.ย. หรืออย่างช้าน่าจะสิงหาขึ้นอยู่กับรายได้ทางภาษี การเจรจาดูเหมือนยังเป็นไปอย่างยากลำบาก ในเมื่อเงื่อนไขการเพิ่มวงเงินต้องแลกมับการลดรายได้ของภาครัฐลง ซึ่ง ปธน.โจ ไบเดน ก็ไม่เห็นด้วย ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์ยังมีการรายงานตัวเลขสหรัฐ เช่น GDP QoQ และ PCE Deflators YoY ที่คาดว่าจะลดลงทั้งคู่ คือ อยู่ที่ 2% และ 4.1% ตามลำดับ หากเป็นไปตาคาด หรือใกล้เคียงก็จะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนอีกแรงดังนั้นตามใดที่ไม่เสียเทรนด์ขาขึ้นทางเทคนิคคือไม่หลุด 1955 ลงมา แนวรับรายสัปดาห์ช่วง 1980 / 1968-64 ก็ถือเป็นจุดสำคัญให้เข้าเล่นรอบได้ เคร่งครัด Stoploss 1955 เพราะหากหลุดแนวดังกล่าว ราคาอาจไหลลงอย่างต่อเนื่องได้จึงควรระวัง
กรอบราคาทองคำไทย :
สำหรับนักลงทุนระยะสั้นเล่นรอบ ราคาทองไทยอาศัยจังหวะย่อตัวเข้าซื้อ 32200-150 ซึ่งทั้งนี้ราคาบริเวณดังกล่าวอาจต้องพิจารณา Gold Spot ร่วมด้วยว่าหลุด 1955 หรือไม่ หากไม่หลุดจะถือเป็นราคาต่ำเพียงพอที่จะเก็งกำไรในกรอบ 32150-32900
นักลงทุนระยะกลาง จะเริ่มกลับเข้ามาทยอยสะสมเมื่อราคาทองไทยหลุด 32000 ไปแล้ว หากยังไม่หลุดแนวดังกล่าวจะเป็นเพียงการเล่นรอบระยะสั้นๆเท่านั้น
Strategy :
นักลงทุนระยะสั้นย่อตัว Open Long 1980 / 1968-64 [ วาง Stop-loss = 1955 ]